วันที่ 01 พฤศจิกายน 2567

วิธีการรับรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล

ผู้ถือสลากที่ถูกรางวัลสามารถขอรับเงินรางวัลได้ภายใน 2 ปี นับจากวันออกรางวัล หากพ้นกำหนดจะไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์ได้ สำหรับรางวัลมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท สามารถขึ้นเงินได้ที่ตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วประเทศ หรือสาขาธนาคารที่รับบริการ

สำหรับรางวัลมูลค่าเกิน 20,000 บาทขึ้นไป ต้องติดต่อขอรับรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสาขา โดยเตรียมเอกสารดังนี้:

• สลากที่ถูกรางวัล (ต้องไม่ชำรุดในสาระสำคัญ)
• บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวที่ทางราชการออกให้
• สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีรับเงินรางวัลโดยโอนเข้าบัญชี)

ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบผลรางวัลจากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการเท่านั้น เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง และสำหรับรางวัลที่ 1 มูลค่า 6 ล้านบาท จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 0.5% ตามที่กฎหมายกำหนด

เว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

เพื่อความถูกต้องและเป็นทางการ โปรดตรวจสอบผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ที่เว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ที่สุด

เว็บไซต์ทางการ: www.glo.or.th

นอกจากผลการออกรางวัล เว็บไซต์ทางการยังมีข้อมูลสำคัญอื่นๆ เช่น ตารางการออกรางวัลในงวดต่อไป วิธีการตรวจสอบสลากปลอม กติกาและเงื่อนไขการรับรางวัล รวมถึงคำถามที่พบบ่อย ผู้ถือสลากควรตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการหรือแอปพลิเคชันของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น เพื่อป้องกันการได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

การจัดสรรรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาล

รายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกนำไปจัดสรรเพื่อประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ โดยหลังจากจ่ายเงินรางวัลแล้ว รายได้ส่วนที่เหลือจะถูกนำส่งเข้ากองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม และเข้าคลังรัฐบาลเพื่อนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ

การจัดสรรเงินรายได้

• ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัลสำหรับผู้ถูกรางวัล
• ร้อยละ 20 นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
• ร้อยละ 12 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและการจำหน่ายสลาก
• ร้อยละ 8 สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์และสังคม

โครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรายได้สลากกินแบ่งรัฐบาล

รายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศหลายด้าน ตัวอย่างโครงการสำคัญที่ได้รับการสนับสนุน ได้แก่:

• โครงการพัฒนาด้านสาธารณสุข: การสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล และการสร้างศูนย์สุขภาพชุมชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง
• โครงการพัฒนาด้านการศึกษา: การมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศ และการสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนในโรงเรียนที่ขาดแคลน
• การสงเคราะห์ผู้ประสบภัยพิบัติ: การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติต่างๆ เช่น อุทกภัย วาตภัย และภัยแล้ง ผ่านกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย